แอดไลน์เพื่อรับส่วนลด 10,000 บาททันที LINE: @INTERPLASTCLINIC
ADD LINE

Promotion

โปรโมชั่นถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563

ทำตา 2 ชั้น

฿ 15,000

ราคาปกติ 25,000 บาท, ราคารวมทุกอย่างแล้ว

The Results

ได้ชั้นตาที่สวยงาม แก้ปัญหาต่างๆ ของชั้นตา และปัญหาหนังตาบนหย่อน

Surgery Time

ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30-90 นาที โดยฉีดยาชาบริเวณผนังเปลือกตาบน

Incision

แผลจะซ่อนอยู่ในเปลือกตาบน จะเห็นแผลในเวลาที่หลับตาและจะจางลงเรื่อยๆ

Recovery

นัดตัดไหมหลังการผ่าตัด 5 วัน และใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วันโดยประมาณ

เพิ่มขนาดชั้นตา

คนไข้อายุ 25 ปี มีชั้นตาแต่หลบใน ไม่คมชัด ใช้เทคนิคกรีดยาว และเซ็ตชั้นตาให้ตึงสูงขึ้น

ลดขนาดชั้นตา 3 ชั้น

คนไข้อายุ 39 ปี มีปัญหาตาลึกและมีลักษณะเป็นตา 3 ชั้น เพราะไม่ค่อยมีไขมัน ใช้เทคนิคกรีดยาว ตัดหนังตาออกเล็กน้อยประมาณ 1 มม. และเซ็ตชั้นตาให้ตึงและสูงขึ้น

แก้ปัญหาหนังตาหย่อน

คนไข้อายุ 48 ปี มีปัญหาหนังตาหย่อนและไขมันหางตา ใช้เทคนิคกรีดยาวตัดหนังตาส่วนเกินออก 3 มม. และตัดไขมันบริเวณหางตาออก เซ็ตชั้นตาให้ตึงและสูงขึ้น

ปัญหาของชั้นตา

การผ่าตัดทำตา 2 ชั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีตาชั้นเดียว ผู้ที่มีปัญหาเรื่องหนังตาบนหย่อนทำให้หนังตาเหลือชั้นเดียว หรือผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาตก

ผู้ที่มีอายุมากขึ้นหนังตาชั้นบนมักตกลง ทำให้ชั้นตาเล็กลง และหนังตามักจะมีรอยย่น หย่อนยานมากขึ้น โดยที่บางครั้งชั้นตาอาจตกลงมาปิดชั้นม่านตาได้ หรือทำให้ขนตาม้วนเข้าด้านใน ทำให้ระคายเคืองตาได้

และในคนที่มีตาลึกมากๆ และมีไขมันที่หนังตาน้อย มักมีลักษณะชั้นตาเป็น 3 – 4 ชั้น หลังจากที่มีอายุมากขึ้น ชั้นตาจะเรียงซ้อนกันหลายชั้น ทำให้ดูไม่สวยงามและทำให้ Make up ได้ยาก การผ่าตัดเพื่อลดชั้นตา จะช่วยลดชั้นตาที่ซ้อนกันหลายชั้นให้เป็นสองชั้นและให้ดูสวยงาม Make up ได้ง่ายขึ้น

วิธีการตกแต่งหนังตาบน เป็นวิธีการที่จะช่วยตัดไขมันใต้ตาและตัดหนังตาส่วนเกินออก ช่วยให้ชั้นตาใหญ่ขึ้น พร้อมกับลดไขมันที่ตาบนในบางตำแหน่งได้ และยังสามารถย้ายไขมันไปเติมในบางตำแหน่งที่ขาดไขมัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดด้านบนได้

รายละเอียดค่าบริการ

THE PROCEDURE

การผ่าตัดโดยการกรีดชั้นบริเวณหนังตา

เป็นการผ่าตัดโดยใช้มีดผ่าตัด โดยฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด จากนั้นกรีดเปิดหนังตาตั้งแต่หัวตาไปจนถึงหางตา ตามตำแหน่งของชั้นตาที่คนไข้ต้องการ เย็บยึดชั้นตากับกล้ามเนื้อด้านล่าง จากนั้นเย็บปิดแผลที่ชั้นผิวหนัง การผ่าตัดแบบธรรมดาจะผ่าตัดด้วยมีด อีกแบบคือผ่าตัดร่วมกับการใช้ปลายเข็มไฟฟ้าที่มีปลายคมมาก ซึ่งเป็นวิธีที่แพทย์นิยมใช้ วิธีนี้อาจผ่าตัดโดยใช้มีดผ่าตัดหรือใช้ Laser ในปัจจุบันมีการผ่าตัดโดยการใช้ Laser น้อยลงมากกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากแผลเป็นจากการผ่าตัดด้วย Laser ค่อนข้างเห็นชัดและใช้เวลาในการรักษากว่าการใช้มีดผ่าตัด

Pre & Post Operation

กรุณาคลิกหัวข้อด้านล่าง เพื่อดูวิธีการเตรียมตัวและการดูแลตนเองเมื่อเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขหนังใต้ตาหย่อนและตัดไขมันถุงใต้ตา

การปรึกษาก่อนผ่าตัด

  1. กำหนดขนาดชั้นตา
  2. ไขมันที่เปลือกตา ต้องการตัดออกมาก-น้อยแค่ไหน
  3. ไขมันที่หัวตา ต้องการผ่าตัดออกด้วยหรือไม่ ไขมันที่ตัดออกสามารถนำมาเติมร่องน้ำตาได้ ในรายที่ร่องน้ำตาลึก
  4. ต้องฉีดไขมันเติมหรือไม่
  5. มีหนังตาตกแต่กำเนิดร่วมด้วยหรือไม่

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

  1. หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่างซึ่งอาจทำให้เลือดหยุดช้า ถ้ากินยาควรหยุดยาประมาณ 10 – 14 วัน
  2. สมุนไพรและอาหารบางชนิดเช่น อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ3 – 5 วัน
  3. วิตามิน และอาหารเสริมต่างๆ ควรหยุดทานอย่างน้อย 10-14 วันก่อนการผ่าตัด
  4. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และยาที่แพ้
  5. ควรเตรียมนำแว่นกันแดดไปด้วยเพื่อใช้อำพรางดวงตาหลังการผ่าตัด และป้องกันฝุ่นละออง
  6. ควรมีผู้ขับรถให้ เพราะหลังการผ่าตัดจะยังใช้สายตาได้ไม่สะดวกนัก จึงไม่ควรขับรถเอง
  7. เตรียมลาหยุดงาน 5 วัน
  8. ล้างหน้าก่อนมาผ่าตัด ไม่ควรแต่งหน้าในวันผ่าตัด
  9. ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือ ผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจ สามารถทำผ่าตัดได้ต่อเมื่อแพทย์ที่รักษายินยอมให้ทำการผ่าตัดและจะทำผ่าตัด เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น
  10. ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ไม่ควรมารับการผ่าตัด เนื่องจากเครื่องจี้ไฟฟ้าอาจมีผลต่อการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจได้
  11. ถ้ามีความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมให้ต่ำกว่า 140/90 mm Hg (มิลลิเมตร ปรอท) ก่อนมารับการผ่าตัด
  12. ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดออกแล้วใส่แว่นตา วันที่มาผ่าตัดควรมีคนมาเป็นเพื่อน เพื่อช่วยดูแลขณะกลับบ้าน
  13. ถอดวัสดุโลหะ เช่น แหวน, สร้อยคอ, นาฬิกา ฯลฯ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด

การดูแลหลังการผ่าตัด

  1. ควรนอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) ประคบเย็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง วันละ 4 ครั้ง ประคบประมาณ 5 – 7 วัน เพื่อลดอาการบวม
  2. ผ้าก็อส (GAUZE) ที่ปิดแผลบนตานั้นให้ปิดเพียง1 วัน หลังจากทำผ่าตัด จากนั้นให้เปิดผ้าออกได้เลย ไม่ต้องนำมาปิดอีก
  3. ใช้น้ำเกลือล้างแผลเทราดที่ไม้พันสำลีแล้วใช้เช็ดคราบเลือดและสิ่งสกปรก ออกโดยเช็ดอย่างเบามือ วันละ 2 – 3 ครั้ง และเช็ดได้บ่อยๆ เมื่อมีคราบเลือดออกมา
  4. รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมดถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่น ไส้ – อาเจียน แน่นหน้าอกให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
  5. หลังทำผ่าตัด 5 วันให้มาตัดไหม
  6. หลังทำผ่าตัด 1 อาทิตย์หรือ 1 เดือน ให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง (โทรนัดล่วงหน้า)
  7. ควรงดสุราหรือบุหรี่ และวิตตามิน 2 อาทิตย์
  8. หลังผ่าตัดกลับบ้านได้ แต่ควรหาโชเฟอร์มาขับรถให้
  9. อาจจะมีน้ำตาไหลตลอดเวลาชั่วระยะหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่โดนลม แต่จะหายไปภายในไม่กี่อาทิตย์

การดูแลหลังตัดไหม

  1. หลังจากตัดไหมแล้วตาจะยังมีอาการบวมอยู่ประมาณ2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน จากนั้นประมาณ 3 เดือน แผลจะหายเป็นปกติ และดูเป็นธรรมชาติ
  2. หลังตัดไหมแล้วให้ใช้ EYE CREAM eye gel Vitamin E oil ทานวดที่แผล วันละ 30 – 40 ครั้ง วันละ 2 เวลา (เช้า – เย็น) เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง
  3. หลังทำผ่าตัดแล้ว 2 อาทิตย์ ในกรณีที่แผลเขียวช้ำ สามารถประคบอุ่นได้โดยประคบวันละประมาณ 2 – 3 ครั้ง ประมาณ 3 – 5 วัน
  4. หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล เช่น ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ให้มาพบแพทย์ทันที
  5. ล้างหน้า รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย โดนแสงแดดได้ตามปกติ แต่ห้ามขยี้ตาแรงเป็นเวลา2 เดือน
  6. อาการบวมและรอยช้ำจะหายไปภายใน 7 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับแผลจึงหายเป็นปกติ คุณสามารถลดอาการบวมได้ด้วยการนอนหนุนหมอนสูงและการประคบน้ำแข็ง
  7. สามารถสวมคอนแทคเลนส์ได้ภายใน 7 – 14 วัน หลังตัดใหม สามารถสวมแว่นตาได้เลยและแต่งดวงตาได้ภายใน 7 – 10 วันหลังจากตัดใหม
  8. ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยการสวมแว่นตา

Make an Appointment

นัดปรึกษาศัลยแพทย์ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงกรอกฟอร์มนัดหมายนี้

    20/8-9 Soi Ruamruedi, Phloenchit Rd. Lum Phini, Patumwan, Bangkok 10330
    Thai Hotline: 097-456-2442 English Hotline : (+66) 92-852-4224